ผู้บริหารและอาจารย์ COLA ได้รับเลือกให้เป็นประธานและรองประธาน คณะกรรมการมูลนิธิเพื่อการศึกษาจังหวัดขอนแก่น ครบ 200 ปี พ.ศ.2540 ชุดใหม่ สานต่อการพัฒนาคนขอนแก่นสู่การเป็นกำลังหลักที่สำคัญของชาติ

 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563 เวลา 15.30 น. ณ ห้องเอราวัณ ชั้น G โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชาออคิด อาจารย์สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย รองคณบดีฝ่ายนวัตกรรมและองค์กรสัมพันธ์ วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น ประธานกรรมการบริหาร/กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการมูลนิธิเพื่อการศึกษาจังหวัดขอนแก่น ครบ 200 ปี พ.ศ.2540 ชุดใหม่ โดยได้จัดการประชุมมูลนิธิเพื่อการศึกษาจังหวัดขอนแก่นครบ 200 ปี พ.ศ.2540 ครั้งที่ 2/2563 ขึ้น โดยมีกรรมการสมาคมฯ ชุดเดิม อาทิ นางดรุณี พาลุสุข นายเยี่ยมสุริยา พาลุสุข นายสุนทร ศิริภักดิ์ นายพยัต ชาญประเสริฐ นางดรุณี พาลุสุข นายณัฐวุฒิ ถุนนอก นายอำเภอเกษตรสมบูรณ์ นายชาติชาย ชาธรรมมา ตลอดจนภาค เอกชน ตลอดจนสมาชิกหอการค้าจังหวัดขอนแก่น -สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น และสื่อมวลชน ร่วมรับฟัง

ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดเดิม อยู่ระหว่างดำเนินการยื่นขออนุญาตจดทะเบียนแต่งตั้งกรรมการของมูลนิธิใหม่ทั้งชุด ต่อนายทะเบียนจังหวัดขอนแก่น โดยมีรายชื่อ ดังนี้ 1.นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย เป็นประธานคณะกรรมการ 2.นายสุจินต์ สิมารักษ์ เป็นรองประธานกรรมการ 3.นายสามารถ อังวรางวงศ์ เป็นรองประธานกรรมการ 4.นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ เป็นรองประธานกรรมการ 5.นายโชคชัย คุณวาสี เป็นรองประธานกรรมการ 6.นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล เป็นรองประธานกรรมการ 7.นายกังวาน  เหล่าวิโรจน์กุล เป็นรองประธานกรรมการ 8.นายภารณ ธีระภาณุ 9.รศ.ดร.ศุภวัฒนากร  วงศ์ธนวสุ อาจารย์ประจำวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น เป็นรองประธานกรรมการและเลขานุการ 10. นางสาวยิ่งหทัย ปอนพังงา เป็นกรรมการและเหรัญญิก 

อาจารย์สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย รองคณบดีฝ่ายนวัตกรรมและองค์กรสัมพันธ์ วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น ประธานกรรมการบริหาร/กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานคณะกรรมการมูลนิธิเพื่อการศึกษาจังหวัดขอนแก่น ครบ 200 ปี พ.ศ.2540 ชุดใหม่ กล่าวว่า “มูลนิธิเพื่อการศึกษาจังหวัดขอนแก่นครบ 200 ปี พ.ศ. 2540 มีวัตถุประสงค์ ของมูลนิธิดังนี้ 1. ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาของนักเรียน เยาวชน และพระภิกษุสามเณร ที่มีภูมิลำเนาหรือกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ในจังหวัดขอนแก่น ที่ยากจน และด้อยโอกาสให้ได้รับการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น 2. เพื่อดำเนินการ หรือร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆเพื่อสาธารณประโยชน์ 3. ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมือง และ เพื่อพัฒนาคนขอนแก่นสู่การเป็นกำลังหลักที่สำคัญของชาติ พร้อมวอนคนขอนแก่น ต่อยอดทำความดี และการพัฒนาในด้านต่างๆที่ครอบคลุมรอบด้านจนนำไปสู่การกลับมาพัฒนาจังหวัดต่อไปในอนาคต”

ข้อมูลข่าว  www.banmuang.co.th/news

Scroll to Top