ศิษย์เก่ามข. ผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต กลับมามอบทุนการศึกษา ส่งต่อโอกาสให้รุ่นน้อง

……………เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564  รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ชาญชัย  พานทองวิริยะกุล  อธิการบดี  รองศาสตราจารย์ เพียรศักดิ์  ภักดี  รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ และอาจารย์ ณัฐสมล  ธนกุลรังสฤษดิ์  ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ  ให้การต้อนรับ นางสาวฉัตว์วรี รุจิโรจน์กุลบวร  ศิษย์เก่าคณะศึกษาศาสตร์ สาขาการสอนภาษาญี่ปุ่น ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการบริษัท พงลักษณ์ กรุ๊ป จำกัด พร้อมด้วย นายธนศิษฐ์  รุจิโรจน์เมธากุล และคณะ ที่ได้มามอบทุนการศึกษา จำนวน 300,000 บาท สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นผู้มีผลการเรียนดีแต่มีฐานะยากจน

จากขวา : นางสาวฉัตว์วรี รุจิโรจน์กุลบวร , นายธนศิษฐ์ รุจิโรจน์เมธากุล , รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ชาญชัย พานทองวิริยะกุล  , รองศาสตราจารย์ เพียรศักดิ์ ภักดี และอาจารย์ ณัฐสมล ธนกุลรังสฤษดิ์

……………เมื่อ 57 ปีที่แล้ว  มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ก่อตั้งขึ้นเป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามนโยบายการขยายการศึกษาระดับอุดมศึกษาสู่ส่วนภูมิภาคของประเทศไทย  เพื่อพัฒนากำลังคน และองค์ความรู้ และยกฐานะความเป็นอยู่ของประชาชนในภูมิภาค  มีนักเรียนจากทั้งภาคอีสาน และทุกภาคทั่วประเทศมุ่งเข้าศึกษาต่อ  มีทั้งผู้มีทุนทรัพย์สนับสนุนในการศึกษา  แต่ยังมีนักศึกษาอีกจำนวนมากที่ขาดทุนทรัพย์ในการศึกษาเล่าเรียน  มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงจัดสรรทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาเหล่านี้  เพื่อสร้างบัณฑิตคุณภาพที่มีความรู้ความสามารถสู่สังคมการทำงาน   การได้รับโอกาสในการศึกษา  จึงเป็นจุดเริ่มต้นสั่งสมอุดมการณ์แห่งการเป็นผู้ให้แก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยขอนแก่นในการส่งต่อโอกาสให้รุ่นน้องได้เรียนต่อโดยมอบทุนการศึกษาจากรุ่นสู่รุ่นตลอดมา

นางสาวฉัตว์วรี รุจิโรจน์กุลบวร  ศิษย์เก่าคณะศึกษาศาสตร์ สาขาการสอนภาษาญี่ปุ่น กรรมการผู้จัดการบริษัท พงลักษณ์ กรุ๊ป จำกัด

 

……………“มินท์”  ฉัตว์วรี รุจิโรจน์กุลบวร  เป็นหนึ่งในผู้ที่สอบเข้าเรียนได้แต่ไม่มีทุนทรัพย์  และได้รับทุนการศึกษาเป็นจุดเริ่มต้นในการเรียนจนจบคณะศึกษาศาสตร์ สาขาการสอนภาษาญี่ปุ่น และเป็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจก่อตั้งบริษัทของตนเอง เป็น กรรมการผู้จัดการบริษัท พงลักษณ์ กรุ๊ป จำกัด  สร้างสินค้าแบรนด์ดัง  “คอลลาริช” ที่มีชื่อเสียง  และได้กลับมาส่งต่อโอกาสให้รุ่นน้องดังเช่นที่ตนเคยได้รับมา

……………“มินท์”  ฉัตว์วรี   กล่าวว่า  “ทุนการศึกษา จำนวน 300,000 บาท ที่นำมามอบในครั้งนี้ ด้วยสำนึกในความกรุณาของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่เคยได้รับทุนการศึกษา  ตลอดจนคณาจารย์ที่เมตตาประสิทธิ์ประสาทความรู้ ทำให้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี   ส่งผลให้สามารถประสบความสำเร็จในการประกอบสัมมาชีพโดยสุจริตในระดับที่พีงพอใจในปัจจุบัน  และทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถดูแลครอบครัวให้มีความสุขได้   จึงตั้งใจจะส่งมอบโอกาสให้กับรุ่นน้องนักศึกษาผู้มีคุณสมบัติมีผลการเรียนดีแต่มีฐานะยากจน แบ่งเป็น 30 ทุน ทุนละ 10,000 บาท สำหรับมอบให้แก่นักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ สาขาการสอนภาษาญี่ปุ่น จำนวน 5 ทุน และสาขาอื่นๆ อีก 5 ทุน รวมเป็น 10 ทุน   มอบให้กับคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม จำนวน 5 ทุน และภาควิชาอื่นๆ 5 ทุน รวมเป็น 10 ทุน  และมอบให้คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จำนวน 10 ทุน”

……………“มินท์”  ฉัตว์วรี กล่าวถึงทางบ้านว่า  “ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี พ่อทำงานเป็นยาม แม่ทำงานเป็นพนักงานห้างสรรพสินค้า อยู่ที่จังหวัดศรีษะเกษ  แม้จะรู้ดีว่าทางบ้านไม่ค่อยมีเงิน  แต่ก็แอบตั้งความหวังในการเรียนต่อ  จึงตั้งใจอ่านหนังสือ  และสอบติดคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ โดยที่ยังไม่มีค่าเทอม  แต่ได้ข่าวดีอาจารย์แจ้งว่าได้รับทุนการศึกษา จำนวน 30,000 บาท  ทำให้มีเงินไปจ่ายค่าเทอมแรก  และยังมีเงินเหลือเงินได้ใช้ต่ออีก 3 เดือน และโชคดีที่พักอยู่หอในที่จ่ายไม่แพง  แต่ต้องคิดหนักว่าในเทอมต่อไปจะหาเงินเรียนจากที่ไหน  จึงมองเห็นโอกาสหารายได้จากการสอนพิเศษให้กับนักเรียนชั้นประถมที่คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นจุดที่นักศึกษารับสอนพิเศษ ชั่วโมงละ 80 -100 บาท  จึงมีรายได้วันละ 80 บาท บวกกับทุนจากทางมหาวิทยาลัย  ทำให้จากนั้นมาก็ไม่ได้ขอเงินจากทางบ้านอีกเลยจนเรียนจบ  และได้รับโอกาสจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตคือ  ตอนที่เรียนอยู่ปีที่ 5 ได้ทุนแลกเปลี่ยนจากคณะไปเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น 3 เดือน  พบว่าที่ญี่ปุ่นอาหารเสริมขายดีมาก คนญี่ปุ่นกินทุกคน  พอกลับมาเมืองไทยก็คิดอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ในช่วงออกฝึกสอนในโรงเรียน จึงเริ่มสั่งคอลลาเจนมาขาย โดยได้ชื่อแบรนด์จากเพื่อนตั้งให้ว่า “คอลลาริช” โดยใช้เงินเก็บจากการสอนพิเศษตลอด 4 ปี รวมประมาณ 1 แสนบาทมาลงทุน ซึ่งในครั้งแรกก็ไม่ประสบความสำเร็จ  แต่ยังไม่ท้อและสู้ต่อนับหนึ่งใหม่  จนกระทั่งมีช่วงพีคที่สั่งของไปรอบละ 5,000 ชิ้น  แล้วอยู่ ๆ ก็ขายดี ยอดสั่งเพิ่มขึ้นเป็นแสน-สองแสนชิ้น และมียอดทวีคูณขึ้นมาเป็น 4 ล้านชิ้น จนปัจจุบันมีสินค้าของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 8 ตัว   ซึ่งมีโอกาสแห่งความสำเร็จสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การจบสาขาการสอนภาษาญี่ปุ่น ทำให้ดีลสินค้าได้เองโดยตรงกับชาวญี่ปุ่น”

…………… “ขอขอบคุณอาจารย์ที่คณะ ที่ใส่ใจในการสอนกับเด็กมากจริง ๆ จากเรียนสายวิทย์คณิตมาแล้วไม่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่น อาจารย์ก็จะให้ไปนั่งข้างหน้าจนเรียนทันเพื่อน   ขอบคุณเพื่อนร่วมคณะที่ช่วยติวให้เพราะมัวแต่ทำงานหาเงิน จนเพื่อนแซวว่าพ่อแม่ส่งมาเรียนหรือส่งมาทำงานกันแน่  ซึ่งในตอนนั้นไม่ไม่กล้าบอกเพื่อนในเรื่องความขัดสน  ขอบคุณมหาวิทยาลัยขอนแก่น ขอบคุณหอพักที่ 14 ที่ได้อาศัยอยู่ถึง 4 ปี  หากไม่มีมหาวิทยาลัยขอนแก่น  จะไม่มี “มินท์”  ฉัตว์วรี รุจิโรจน์กุลบวร  ที่ประสบความสำเร็จในวันนี้อย่างแน่นอน”

…………… “เชื่อเหลือเกินว่า ‘การศึกษาเป็นศาสตราวุธ’ ที่จะนำพาชีวิตของคนคนหนึ่งให้มีชีวิตที่ดีขึ้น  และสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ สร้างประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติ และสามารถกลับมาส่งต่อโอกาสให้กับรุ่นน้องของมหาวิทยาลัยต่อไป”   “มินท์”  ฉัตว์วรี รุจิโรจน์กุลบวร  กล่าวในที่สุด

ข่าว   :  วัชรา   น้อยชมภู
ภาพ  :  ณัฐพงษ์  ชำนาญเอื้อ

Scroll to Top