“สุวิทย์” ประชุมร่วมอธิการบดีทั่วภาคอีสาน ผนึกพลังนักวิชาการสู่การพัฒนา

สำนักข่าว: สยามรัฐ
URL:https://siamrath.co.th/n/163141
วันที่เผยแพร่: 16 มิ.ย. 2563

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 16มิ.ย.2563 ที่ ห้องประชุมชั้น 2สำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม หรือ อว. เป็นประธานในการประชุมร่วมผู้บริหารมหาวิทยาลัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11 แห่ง และผู้บริหารของ กระทรวง อว. เพื่อกำหนดแผนการดำเนินงานร่วมระหว่าง กระทรวง อว. กับ สถาบันการศึกษา ภาครัฐและภาคเอกชนในระดับภูมิภาค โดยมีผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ,และผู้บริหารกระทรวง อว. เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษา วิจัย และนวัตรกรรม กล่าวว่า นโยบายอีสาน 4.0 กำลังจะถูกผลักดันให้มีความชัดเจนมากขึ้น วันนี้ กระทรวง อว.มาระสานการทำงานร่วมกันกับสถาบันกาศึกษาในระดับภูมิภาค ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อกำหนดทิศทางในการทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าภาคอีสานนั้นมีปัญหาเรื่องน้ำมาตลอด ดังนั้นหากนำหลักวิชาการในระดับพื้นที่มาประสานการทำงานร่วมกันกับภาครัฐ มีการบริหารจัดการน้ำที่เป็นรูปธรรม ผลผลิตและผลลัพธ์ที่จะได้รับในระดับพื้นที่ก็จะเกิดขึ้นกับประชาชน ปัจจุบัน กระทรวง อว. ได้ดำเนินการจ้างงานให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และจะมีการจ้างงาน นักศึกษาทั่วประเทศอีกกว่า 300,000 คน ทุกคนจะลงพื้นที่จัดทำข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน และประสานการทำงานในระดับพื้นที่ตามนโยบายที่รัฐบาลกำหนดไว้ใน 3 รูปแบบคือการสร้างความเข้มแข็งจากภายใน เชื่อมประเทศไทยสู่นานาประเทศการเดินหน้าไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังและการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

“ ภาคอีสานนั้นมีโอกาสที่จะได้รับการพัฒนาและได้รับโอกาสหลังโควิดอย่างมาก แต่เราติดปัญหาเรื่องน้ำ ซึ่งหากมีน้ำทั้งนี้ ทั้งในด้านปศุสัตว์ ด้านการเกษตร ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว การนำเอาตำนานของภาคอีสานมาถ่ายทอดเรื่องราวและต่อยอดองค์ความรู้จากการวิจัย ทั้งหมดจะถูกดำเนินงานด้วยการบูรณาการการทำงานระหว่าง สถาบันการศึกษาด้วยทีมนักวาการที่เข้มแข็ง กับ กระทรวง อว. และ ชุมชน โดยมีคณะทำงานทีเราจะจ้างงานนั้นลงพื้นที่ทำงานร่วมกันกับชุมชนทุกวัน ดังนั้นเงินกู้ 4 แสนล้าน ที่เรากำลังพูดถึงนั้นจะเป็นความคาดหวังของสังคมที่ กระทรวง อว. จะเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานดังกล่าวในระดับพื้นที่เช่นกัน”

นายสุวิทย์ กล่าวต่ออีกว่า ทุกนโยบายที่รัฐบาลดำเนินการนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราจะเปลี่ยนความยากจนให้เป็นความมั่นคั่ง มั่นคง และยั่งยืนได้อย่างไร จากนี้นั้น สถาบันการศึกษาที่วันนี้มีการบูรณาการ มีการเชื่อมต่อและเชื่อมโยงข้อมูล มีการประสานการทำงานกันเป็นทีมจะนำหลักวิชาการ นำนวัตรกรรม นำความทันสมัย และความล้ำหน้าในแวดวงต่างๆนั้นมาช่วยกัน เพราะเป็นก้าวที่สำคัญของประเทศหลังโควิด ที่หลายคนมองว่าเป็นวิกฤติ เป็นสิ่งที่เราจะต้องเจอผลกระทบในด้านต่างๆที่จะเกิดขึ้น แต่ถ้าเรามองถึงโอกาสและเข้าถึงโอกาสดังกล่าวนั้นให้ได้ความสำเร็จ ด้วยการประสานการทำงานร่วมกันเป็นทีมจากทุกภาคส่วนจะสร้างความเข้มแข็ง ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนให้กับประเทศและให้กับประชาชนได้โดยสำเร็จ

Scroll to Top